Accessibility Tools

ประกาศการประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์ ครบรอบ ๗๐ ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง

ประกาศมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
เรื่อง การประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์ ครบรอบ ๗๐ ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
     

          มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง มีรากฐานความเป็นมาจากการจัดตั้งวิทยาลัยหมู่บ้าน เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ๒๔๙๗ โดยได้นําแนวคิดของประเทศตุรกี ที่ต้องการแก้ปัญหาการขาดแคลนครูในชนบท มีการคัดเลือกนักเรียนในท้องถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศไทยที่เรียนดี มีความประพฤติดี มาให้ทุนการศึกษา เป็นระยะเวลา ๕ ปี เมื่อสําเร็จการศึกษาได้รับวุฒิประกาศนียบัตรวิชาการศึกษา และกลับไปพัฒนาท้องถิ่นของตน ในการจัดการเรียนการสอนนักเรียนทุกคนต้องอยู่หอพัก เพื่อเรียนรู้ทั้งวิชาชีพครู วิชาการงานอาชีพ ด้านการก่อสร้าง การเกษตร งานช่างทุกประเภทอันเป็นประโยชน์ต่อการสอน และการพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง ต่อมาเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ ได้ยกฐานะเป็น "วิทยาลัยครูหมู่บ้านจอมบึง " เปิดรับนักศึกษาเข้าเรียน หลักสูตร ๒ ปี ได้รับวุฒิบัตรวิชาการศึกษา (ป.กศ.) วุฒิบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง (ป.กศ.สูง) และ ครุศาสตรบัณฑิต ซึ่งต่อมาได้ผลิตบัณฑิตในสาขาวิชาอื่น ๆ ด้วย เช่น วิทยาศาสตรบัณฑิต และ ศิลปศาสตรบัณฑิต กระทรวงศึกษาธิการได้นําความกราบบังคมทูล พระกรุณาทราบฝ่าละออง ธุลีพระบาทจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อ “สถาบันราชภัฏ” เมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๕ พร้อมกับได้รับพระราชทานตราสัญลักษณ์ประจําสถาบันเพื่อเป็นสิริมงคลแก่สถาบันราชภัฏ โดยมีตราพระราชลัญจกรในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ อยู่ในวงรี เมื่อวันที่ ๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ ต่อมา เมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๗ จึงได้รับการยกสถานะเป็น “มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง” นับแต่เริ่มจัดตั้งจนถึงปัจจุบัน ในปี พ.ศ. ๒๕๖๗ จึงเป็นปีที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงมีอายุครบ ๗๐ ปี

          ดังนั้นในวาระโอกาสครบรอบ ๗๐ ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงจึงได้จัดโครงการประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์ ๗๐ ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ สื่อสาร ประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชน หน่วยงาน ศิษย์เก่า ได้ทราบถึงพัฒนาการ และ ความเจริญก้าวหน้าของสถาบันแห่งนี้อย่างต่อเนื่องยาวนาน ภายใต้แนวคิด “การเป็นสถาบันการศึกษา ของท้องถิ่นที่มีคุณภาพ ผลิตบุคลากรที่มีสมรรถนะสูง บนพื้นฐานภูมิปัญญาไทย และสร้างสรรค์นวัตกรรมสู่ท้องถิ่น"

  รายละเอียด

 

  ที่มา : งานประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร